วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2562

Brazil Trip 2018: เมื่อเด็กกรุงอยากเข้าป่าอะเมซอน (Part II: Amazonas ปิรันย่าจ๋าข้ามาแล้ว)


30/09/18 To South America, Brazil, São Paulo
ตื่นมาทำอะไรเสร็จ เช็คเอาท์พร้อมกินข้าว ชอบมื้อเช้าที่นี่ตรงมีทั้งซีเรียล สลัด และชีสหลากหลายแบบมาก ๆ (คอชีสอย่างฟิน 😍) พอ 7:00 นิด ๆ ก็ออกไปขึ้นรถกลับไปสนามบิน ไปขึ้นเครื่องสู่ เซา เปาโล รอบ 9:40 สู่สนามบิน Governador
 
ของแต่ละอย่างอร่อยโฮก
วิวยามรุ่งอรุณ
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยคุณ Turkish



หลังจากขึ้นเครื่อง ประมาณ 11:30 มื้อกลางวันก็มาเสิร์ฟ เป็นปลาเนื้อขาวห่อกระดาษอบกับผัก (เรียกไม่ถูก 😅) ก็โอเคดี แต่แอบกินยากนิดหน่อยตรงกระดาษสีขาว เผลอเคี้ยวไปนิด 😂 พวกไซด์เป็นสลัด ขนมปัง กับ พุดดิ้งมะม่วง อันนี้ชอบมาก หอม อร่อยดี
 
เมนูอาหาร
โฮมเมดเลมอนเนดเค้าสดชื่นมาก คือไม่สั่งตอนขึ้นเครื่องตอนหลังหมดอดกินอ่ะ
วิวสวย ๆ จ้า เมืองเป้นระเบียบดีจัง
มื้อกลางวัน ชอบพุดดิ้งมาก



จากนั้นก็เข้าลูปเดิมนั่ง ๆ นอน ๆ อ่านหนังสือ ดูหนัง เข้าห้องน้ำ หิวก็ไปขอขนมปัง กับ น้ำกินเพิ่ม จนมาถึงช่วง 2 ทุ่มตุรกี ก็ได้เวลา Dinner มื้อนี้เป็น Grilled Fillet of Salmon 😍 แซลมอนย่าง กับ ผัก และมันบดอย่างหอม นวล อร่อย พวกไซด์เป็นถั่วแระฝรั่งเศสในน้ำมันมะกอก ของหวานเป็น Chocolate Mousse ท็อปด้วย Caramelized fig นี่ก็อร่อย ชอบ ๆ ไม่หวานไป ตบท้ายด้วยชาร้อน ๆ ดูหนังเพลิน ๆ ต่อ จนในที่สุด ประมาณ 23:30 ตุรกี (17:30 บราซิล ดิฟกัน -6 ชม.) ก็มาถึงสนามบิน ออกมา ผ่าน ตม. แลกตังค์ ทำไรเสร็จก็ 6 โมงครึ่งได้ Rate ที่นี่แย่มาก 100 USD ควรจะได้ 400 Real ปรากฏนอกจาก Rate แย่ยังถูกหักค่าภาษีไรอีก ไป ๆ มา ๆ เหลือ 300 Real แค่แลกตังค์ก็เสียไปแล้ว 800 กว่าบาท TT

จากนั้นก็รอขึ้นเครื่องต่อไปยัง Manaus Airport, Amazonas ตอน 21:20 ด้วยสารการบิน LATAM
(มีเน็ตฟรีให้ใช้ได้ 1 ชม. x 2 ครั้ง)
 
LATAM Airline
01/10/18 Adventure in Amazon
เดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ก็มาถึงสนามบิน Manaus เป็นการเดินทางที่หนาวที่สุด คือ แอร์เปิดเย็นมากจนต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่ (ก็ยังนอนสั่นอยู่ดี) เสร็จแล้วก็ออกมา นอนรอ หาของกิน ล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุด (มีเน็ตฟรีให้ใช้ 1 ชม.) เตรียมไปป่าอะเมซอนตอน 7 โมง
 
บรรยากาศตอนมาถึง ร้านเริ่มจะปิดหมดละ
อาหารประจำบ้านเค้า ข้าว มันฝรั่งทอด ถั่วต้ม แป้งทั้งนั้น!
นอนรอจนเช้าเอาจนพนักงานทำความสะอาดมองกดดันอ่ะ
นั่งรอ รอแบบ เฮ้ย ไม่เห็นมารับตามเวลาเลย

หลังจากออกมาก็มีคนทารับพาไปป่าอะเมซอน โดยจะเข้าไปเก็บของที่พักก่อนแล้วค่อยออกเดินทางตามทริป

เดินทางไปยังป่าอะเมซอน
รถมา 7:20 ตอนแรกแอบหวั่น จะมารับป่ะหว๊า สนามบินอย่างเงียบเลย พอมารับก็ไปรอคนร่วมทัวร์มาสมทบที่โรงแรม ได้ออกจริง ๆ ก็ 8 โมงกว่า เค้าบอกใช้เวลา 1:15 ชม. ไปหมู่บ้านเล็ก ๆ ก่อนนั่งเรือต่อไปยัง Lodge ค่าใช้จ่าย 300 USD (หัวละ 150 USD)

ครั้งนี้มีคู่ ชาย หญิง ชาวเยอรมันร่วมทริปด้วย
รถพาแวะ 2 จุด จุดแรกมีของชำขาย ส่วนอีกจุดเป็นร้านละดวกซื้อ ที่มีให้ซื้อก็พวกน้ำขวดล่ะ เพื่อเอาไปกรอกน้ำแร่ที่พักตอนไปเดินป่า

ตลอด Local
อารมณ์ตลาดนัดแต่ดูเงียบเหงามาก คือ ชนบทเลย

บ้านเรารสชาติดีกว่าแยะ
น้ำอัดลมนี่เซฟสุดแล้ว
เค้าบอกว่าช่วง High Season คนเยอะนะ แต่นี่ร้างเลย
หืมมม พาเราไปถึงใช่ไม๊ จะโดนอะไรงาบไปก่อนไม๊
ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออก
กลับหลังไมไ่ด้แล้ว หันไปทางไหนก็มีแต่ป่าและแม่น้ำ(?) ใหญ่ไปที่จะเรียกว่าแค่แม่น้ำอ่ะเอาจริง
ห้องนอนดูร้าย ๆ แต่มีแอร์ มีห้องน้ำก็พอแล้ว
ห้องน้ำมีแยกพื้นที่แห้ง-เปียยกนะเอ้อ
เวิ้งว้าง



หลังจากถึงหมู่บ้านประมาณ 9:40 ก็นั่งเรือต่ออีกประมาณ 20-30 นาทีก็มาถึงที่พัก ครั้งนี้ใช้บริการของ Anaconda Lodge สำหรับที่พักมีแอร์ มีเตียง ห้องน้ำไนตัวก็โอเคนะ แต่จะเหมือนพวกเขื่อนคือกลางวันไม่เปิดไฟ ก็เก็บของปล่อยชิล นอนเล่น จิ๊กล้วย ส้ม มะม่วงหิมพานต์กิน รอจนถึงเที่ยงก็ได้เวลาอาหารกลางวัน 
 
มะม่วงหิมพานต์ใหญ่และสดมาก
นอนรอแดดร่ม
ออกเคลื่อนตัวได่้
เอาจริงไม่รู้จะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์บ้างเลยนะ



มื้อกลางวันมีไก่ย่างทั้งตัว รสชาติแห้งบ้าง แฉขบ้างจ้า กินได้แหละ มีข้าวผัดกับสปาเก็ตตี้ มีแครอท บีทรูท ต้ม ที่สด อร่อยมาก ไข่ต้มก็ทั่วไป ผลไม้มีแตงโม กล้วย ส้ม กินเสร็จก็ปล่อยชิลต่อ ช่วงกลางวันอยู่ ๆ ก็มีแขกโผล่มาให้พรึ่บ แบบนี่อยู่ในห้องกันมาตลอดหรอ 🤔 แต่ตามจริงแค่กลับมาจากที่ไหนซักแห่งแหละ หลังจากทานมื้อกลางวันเสร็จก็พักผ่อน รอให้แดดร่ม ๆ หน่อย ประมาณบ่าย 3 ครึ่งค่อยออกไปสองสัตว์ ตกปลาปิรันย่า กับ ดูจระเข้

ก็ค่อย ๆ เริ่มนั่งล่องเรือออกไป จุดนี้เรือไม่มีร่มให้ควรเอาหมวกไปด้วยกับอย่าลืมยากันยุงเพราะจะอยู่ถึงพระอาทิตย์ตกดิน ยุงเริ่มจะมา

ล่องไปได้ซักครึ่ง ชม. ก็เจอฝูงลิงออกหากินบนต้นไม้ใหญ่ เป็นลิงพันธุ์ตัวเล็ก ๆ สีสันสดสันหน่อย ๆ แอบคล้ายค่างห้าสี ดู ๆ ไปสักพักก็ค่อยเดินทางไปตกปลาปิรันย่าต่อที่แหล่ง ห่างไปไม่ไกลกันมากซักครึ่ง ชม.ได้ ก็นั่งตกกันตั้งแต่ 4 โมง ยัน 5 โมงครึ่ง มีพยายามเปลี่ยนจุดด้วยนะ โดยวิธีตกจะใช้เบ็ดไม้ไผ่เกี่ยวตะขอโดยใช้เหยื่อเป็นเนื้อไก่สด หย่อนเบ็ดลงไปลึก ๆ หน่อย พอกระตุกก็ดูจังหวะค่อย ๆ ดึง สรุปบรรยายไปมีแค่พี่ร่วมทริปตกได้ 1 ตัว กับไกด์ท้องถิ่นตกโชว์ให้ดูได้อีก 2 ตัว เจอพันธุ์ท้องแดงที่ว่าดุ ๆ ตกยาก ตัวหนึ่งพอดี เลยจับมาถ่ายรูปซะ 🤣 เห็นเค้าบอกว่าเนื้อรสชาติอร่อยแต่ก็ไม่มีโอกาสได้กินอ่านะ เค้าพามาตกแล้วก็ปล่อย



เดอะ ปิรันย่า
ดูฟันอันแหลมคมนั้นสิเธอ
อาทิตย์ตกดินแล้ว



หลังจากนั้นก็นั่งเรือไปต่อยังจุดดูจระเข้อัลลิเกเตอร์ เป็นจระเข้หางแบนพันธุ์ตัวไม่ใหญ่ ซัก 40 นาทีก็มาถึงแหล่งคล้าย ๆ แอ่งน้ำตื้น ตอนแรก ๆ ส่องไฟเจอดวงตาด้วย ชัดเจนมากน่าจะเป็นตัวเต็มวัย ซักพักหนึ่งไกด์ก็ค่อย ๆ พายเรือเงียบ ๆ เข้าไปจับเบบี๋สาวน้อยมาให้ดูตัวหนึ่ง น่ารักดีตาดูบ้องแบ๊ว ใส ๆ จับเบา ๆ มีดิ้นบ้างเล็กน้อย ตัวนุ่ม ๆ (คร่าวนี้เล่นมุกว่าอร่อยไม๊ ไกด์บอกปล่อยมันไปเถอะ 😂) จากนั้นก็นั่งเรือกลับที่พักใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม. ขากลับข้างกำแพงห้องเจอลูกแมงมุมทารันทูล่าด้วย ตัวบักเข่งเลยนี่ขนาดแค่ลูกนะ 

 
นู๋อัลลิเกเตอร์ตัวน้อย น่ารัก ><
ทารันทูล่าป่าของของจริง!


กลับมาก็ล้างหน้าล้างตา พักผ่อน รอมื้อเย็นตอนทุ่มนึง ที่นี่ไฟฟ้าเปิดให้ใช้ 6 โมงเย็นถึง 6 โมงเช้า มื้อเย็นวันนี้เป็นสปาเก็ตตี้กับเนื้อบด ซึ่งรสชาติโคตรเค็ม -...-“ แต่ก็กินได้แหละ ผลไม้นอกจากส้มกับกล้วยยืนพื้นก็มีสับปะรด ซึ่งเนื้อฉ่ำดีนะแต่รสชาติติดทางจืดหน่อย ไร้ความเปรี้ยวไว้กินดับกระหายอย่างเดียว หลังทานข้าวเสร็จก็กลับมาอาบน้ำพักผ่อนเตรียมลุยป่าวันพรุ่งนี้ต่อไป
เค็มจ้าาาาา
น้ำอัดลมประจำชาติบ้านเค้า
02/10/18 Jungle Trip and Go to Rio De Janeiro
จากที่เจ้ชาวเยอรมันที่มาด้วยถามหาว่าไม่มีดู Pink Dolphin หรอ เพราะเมื่อวานมัวแต่ตกปลาปิรันย่ากันเวลาเลยไม่พอ วันนี้เลยเปลี่ยนจากเดินป่าเป็นไปเยี่ยมชนเผ่าพื้นเมืองและไปว่ายน้ำกับโลมาสีชมพูแทน 

มื้อเช้าตอน 7 โมง เป็น ไข่ขน ผัดไส้กรอก มีกาแฟ โอวัลติน น้ำร้อน ผลไม้เป็นแตงโม กล้วย ส้ม
มี Tropical Drink เป็นน้ำมะม่วงหิมพานต์กับน้ำฝรั่งชมพู แล้วก็มีต๊อปปิยอก้า อารมณ์เป็นแป้งส่วนไส้ตรงกลางคล้าย ๆ ชีส แป้งจะเหนียว ๆ หน่อย ส่วนไส้ตรงกลางก็เค็ม ๆ อ่อน ๆ

หลังกินข้าวเสร็จ 8:30 ก็เริ่มเดินทางไปหาชนเผ่าพื้นเมือง ก่อนจะไปพี่อังกฤษเชื้อสายอินเดียให้นิชชินมา เพราะบอกรสชาติไม่ถูกปาก นี่แอบสงสัยว่ารสชาติจะเป็นไง เผ็ดไหม เห็นมีรูปพริก ไว้ลองละจะมาอัพเดทอีกที ระหว่างล่องเรือป๊ะกับโลมาสีเทา ซึ่งจะม่องใกล้ ๆ ยากหน่อย ค่อยข้างขี้อาย ซักครึ่ง ชม. ก็เดินทางมาถึง มาถึงปุ๊บมีนกมาต้อนรับทำรังอยู่ข้างบนสีสันสวยงามเหลืองตัดฟ้าอยู่กันเป็นคู่ พอมาถึงปุ๊บ Fabio ก็พาเดินดูต้นไม้พร้อมอธิบายว่าอะไรใช้ทำอะไรบ้าง ใช้บูชาเทพบ้าง ใช้ทาแต้มสี เป็นยาบ้าง สำหรับเทพที่ชนเผ่าบูชามีพระอาทิตย์ พระจันทร์ โลมา และอนาคอนด้า ส่วนปิรันย่าการพกฟันไว้ถือว่าไช้คุ้มครองปกป้องเพราะมันกินทุกอย่างไม่เลือก หลังจากอธิบายเลร็จก็พาไปเดินดูซุ่มอาหาร ชาวบ้านกำลังเผาปลาดุกกับปลากระเบนอยู่พอดี ตัวอย่างเบิ้ม แต่เสียดายไม่มีโอกาสได้ชิม

ชักภาพร่วมกับชนเผ่า
ถัดมาเป็นพวกอาหารแห้งมีแป้งที่กินเมื่อเช้า ปลาปิราควีนหยอง มดคั่วแห้ง ๆ มัน ๆ อร่อยดี สุดท้ายคล้าย ๆ ชีสหรือข้ทวคั่วแห้ง ๆ แข็ง ๆ ไม่มีรสชาติ
จากนั้นก็พามาเดินดูของฝากที่น่าสนใจคือหน้ากากที่ประกอบด้วยฟันปลาปิรันย่ากับเกล็ดอนาคอนด้าแต่วาคาก็แพงไป 130 Real เลยซื้อแค่กำไลข้อมือพอ จากนั้นชนเผ่าก็จะแสดงการแสดงพื้นเมืองต่าง ๆ จนเซ็ตสุดท้ายจะมาชวนให้เราเต้นด้วยรอบ ๆ หมู่บ้าน เสร็จปุ๊บก็ให้ทิปกันไป หลังจากนั้นก็กลับออกมาไปส่งที่เล่นกับโลมาสีชมพู โดยจะเป็นจุดเล่นที่มีทุ่นกันพวกปิรันย่าไรไว้ เราก็จะเปลี่ยนชุดว่ายน้ำใส่ชูชีพลงน้ำไปจะมีคนให้ปลาล่อโลมามา พวกโลมาที่หิวปลาก็จะว่ายมาหาตอนดูในน้ำสะท้อนเป็นสีชมพูอร่าม แต่พอโผล่ขึ้นมาก็ไม่ได้ชมพูเท่าไรนะ ตัวจะนุ่ม ๆ ลื่น ๆ หน่อย ที่เห็นมีรอยต่าง ๆ คือเป็นรอยต่อสู้กันเองบ้าง สู้กับอย่างอื่นบ้าง หลังจากให้อาหารปลาหมดก็อันตรธานจากไป เล่นน้าสักพักก็ขึ้นมาซื้อน้ำกิน ลองน้ำมะพร้าวของที่นี่ก็คิดว่าของเราแหละเด็ดสุดละ 😂 ส่วนตัวเนื้อให้พี่เยอรมันแกไปเฉาะกินตามสบายเลย
Pink Dolphin
จากนั้นก็กลับมา อาบน้ำ รอกินข้าวเที่ยงตอน 12:30 มื้อเที่ยงวันนี้เป็นปลาย่าง 2.พันธุ์ คือ 
tucunare กับ tambaqui รสชาติก็ปลาน่ะแหละ ย่างมาหอม ๆ อร่อยดี แล้วก็มีพวกข้าวกับสปาเก็ตตี้ซอสถั่ว แครอท บีทรูท มัน และไข่ต้ม 
หลังกินเสร็จก็แลกคอนแทคกับพี่ชาวเยอรมันกับหนุ่มอินเดียในลอนดอน จากนั้นก็กลับมาเก็บของ
 
ปลาย่างก็กินได้
ประมาณบ่าย 2 ก็กลับไปสนามบิน ส่วนหนึ่งมีเดินทางเข้าเมืองไปเที่ยวต่อ มีพวกเรา 2 คน กับ แหม่มเยอรมันอีก 2 คนไปสนามบิน ของเราเตรียมไปริโอ ส่วนอีก 2 แหม่ม เตรียมไปทางตอนเหนือของบราซิลต่อ เดินทางกลับเข้าฝั่งครึ่ง ชม. + นั่งรถไปสนามบินอีก ชม. ประมาณ. บ่าย 3 โมงครึ่งก็มาถึงซึ่งด้วยความที่ว่ากว่าจะบินอีกทีตี 1 กว่า มองหาร้านข้าว+ที่พัก ไป ๆ มา ๆ ก็เจอว่า เฮ้ย มี Accommodation ด้วยนะ  เลยตัดสินใจไปมองหาราคา ด้วยความที่เค้าพูดอังกฤษไม่ได้ก็ภาษามือกับอากู๋บ้าง สุดท้ายพาไปดูห้อง เลยเลือกใช้บริการแบบห้องพักรวม+wifi เป็นที่นั่งเบาะนุ่ม ๆ มีตมอน ผ้าห่ม มีน้ำเปล่า เยลลี่แท่ง กับ ห้องน้ำให้อาบได้ เลยเลือกใช้บริการแบบ 6 ชม. ราคา 90 Real
 
เรือขากลับ กลับกันเยอะเรือใหญ่ไม่กลัวเมา XD
เอาจริงมีใช้กันนอยู่แค่ 2 คน กินเยลลี่กะนน้ำเพลินอ่ะ ราคาโอเค เน็ตแรง นอนสบาย



ก็นั่งเล่น นอนเล่นกันไป พอถึงเวลาใกล้ ๆ ก็ไปอาบน้ำ ซัก 4 ทุ่มกว่าก็ออกมาไปหาข้าวกิน สุดท้ายจบที่ Subway นี่ก็พูดอังกฤษไม่ได้ ชี้ของ ชี้ราคากันไป แอบแปลกใจที่น้ำอัดลมไม่มีน้ำแข็งให้แต่ตัวน้ำก็เย็นดี เลยรู้สึกว่าได้เยอะ 😅

จากนั้นก็รอขึ้นเครื่องของสายการบิน GOL ไปริโอ สภาพหน้าตาด้านในแบบพวกนกแอร์เป๊ะ เป็นอันจบทริปอะเมซอนไนวันนี้ลง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น