วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

Jordan Backpack Trip 2019 - เมื่อเด็กกรุงอยากเก็บ 7 สิ่งมหัศจรรย์ Part I (Amman - Jerash City - Ajloun Castle)

Jordan Backpack Trip - (1)

ลุยทราย ชายเพตรา (Petra)
มาลอยคอ ณ เดดซี (Dead Sea) 

หลังจากห่างหายจากการท่องเที่ยว backpack ไปเป็นปี ในที่สุดก็ได้ท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์อีกครั้ง ตามจริงปีนี้อาจไม่มีทริป แต่ก็มีเพื่อนมารบเร้าท่องหา 7 wonders จนเกิดทริปนี้จนได้

23/10/19 วันปิยะมหาราช เราก็ปิยะตาม (о´∀`о)
เริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยใช้บริการสายการบิน Kuwait Airway 
โดยใช้เส้นทาง BKK - KWI transit to AMM
(กรุงเทพฯ - คูเวต - อัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน)

‎Flight KU412: Boeing B777-300

ออกเดินทางเวลา 11:45
หลังจากผ่านไปชั่วโมงนึงอาหารก็เริ่มเสิร์ฟ
ได้เป็นข้าวพะแนงไก่ สลัดไสตล์อาราเบี้ยน ขนมปังพร้อมเนย 2 แบบ และ เค้กช็อคโกแลต
Note: เค้กช็อคฟัดจ์ อร่อย เข้มข้นมาก ชอบมาก ๆ แบบปลื้ม 😍
แถมโชคดีคือทั้งแถวไม่มีคนนั่ง ดูหนัง ยืดตัว นอนยาวได้เต็มที่จ้า 🤩
อาหารขาไปข้าวพะแนงไก่
เค้กช็อคโกแลตฟัดจ์ อร่อยมากกกกก


มาถึงสนามบินคูเวตเวลา 15:00 ณ เวลา ท้องถิ่น
(ทั้งคูเวตและจอร์แดน ช้ากว่าบ้านเรา 4 ชม.)
หรือประมาณ 8 ชม. จากเวลาเริ่มออกเดินทาง

เนื่องจากสายการบินให้โหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ ทริปนี้เลยตัวเบา เดินตัวปลิว หิ้วแค่ accessories คู่ใจและหนังสืออ่านฆ่าเวลาก็พอ 

หลังดื่มด่ำกับหนัง หนังสือ และการนอน
ผ่านไปอีก 5 ชม. (ประมาณ 6 โมงเย็น)
ก็เสิร์ฟอาหารอีกครั้ง เป็นมื้อเล็ก ๆ ได้แก่แซนวิชไก่ (ที่เป็นแบบฝรั่งเศสคือแข็ง TT ไม่ชอบอ่ะ) กับ เค้กขนมปังเนยที่เอาไว้เป็นของว่างมื้อดึกละกัน กับน้ำเปล่าและ Coffee or Tea ตามระเบียบ

ชุดแซนวิชเย็น ๆ ชืด ๆ

จากนั้นก็พักผ่อนรออีกสัก 1 ชั่วโมงก็มาถึงสนามบินนานาชาติคูเวต

หลังมาถึงก็ไปต่อ Connecting Flights (Transfer Only) แถวค่อนข้างยาวจนแอบหวาดเสียว จะตกเครื่องไม๊วะ 😂
ออกมาลงบันไดทางซ้ายมือ Terminal 4 (T4) เป็น Connecting Flight
Airbus ไม่แน่ใจเป็น A320 หรือ ‎A330-200‎


ละแบบเจอลุงแขกอึน ๆ ถามไรก็ตอบไม่ได้อยู่ข้างหน้า เสียเวลาหวาดเสียวไปอี๊กกกก

พอออกมาได้เข้าโซน Duty Free ได้ยินประกาศ Final Call for Flight KU 563 😱 
นี่แบบ เฮ้ยยยย ละเกตตูอยู่ไหน
ดีว่าอยู่ตรงทางซ้ายมือเกตแรกเลย บึ่งไปตรวจตั๋ว พี่คนเช็คแกก็ถามว่าละ VISA ไปจอร์แดนอยู่ไส
นี่ก็ยื่น Jordan Pass ให้ดูว่ามัน include ละนะ
แต่ไม่นำพา เฮียแกก็ดู จน ground หญิงต้องมาบอกว่า สำหรับไทยมัน On Arrival ก็เลยให้ไปขึ้นรถ

Flight KU 563 เป็น Airbus ออก 16:00 เป๊ะ ๆ เลย ตรงเวลามว๊ากกกกกกก ประมาณชั่วโมงนึงอาหารก็เริ่มมาเสิร์ฟ มีไห้เลือกระหว่าง ไก่ หรือ แกะ ส่วน side dish มีเค้กเลมอน สลัดถั่ว และขนมปัง รสชาติข้าวหมกแกะอร่อย นุ่ม หอม ซอสเข้ากันดี ส่วนสลัดถั่วจะมี Italian Dressing ให้

ลุ้น ๆ Lamb ที่ว่าจะเป็นเมนูอะไร

แต๊นนน ข้าวหมกแกะกับซอสและถั่ว

สลัดถั่วกินกับน้ำสลัดอิตาเลี่ยน

ระหว่างที่กิน ๆ อยู่ หนุ่มแขกข้าง ๆ ก็หันมาถามว่า น้ำสลัดกินกับจานสลัดถั่วใช่ไม๊ แล้วก็ตามมาด้วยถามนู่นนี่นั่น ว่าอันไหนกินกับอะไร 😅

สรุปผู้บ่าวแกเป็นชาวบังคลาเทศ มาครั้งแรกเหมือนกันและเหมือนจะขึ้นเครื่องไม่กี่ครั้ง ดูงง ๆ ก็เลยช่วยถามตอบไป ประมาณ 6 โมงครึ่ง ก็มาถึงจอร์แดน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

รอกระเป๋าไม่นานก็แลกเงินที่ global exchange โชคดีที่มีโปรแลกแล้วได้ gift voucher ไปซื้อ SIM Umniah แล้วได้เน็ตเบิ้ล 2 เท่า เลยออกมาละไปซื้อโปรแบบ 10 วัน ราคา 10.88 JOD ได้เน็ตมา 20 GB สบายยาวละ 😂

เอาไปใช้ซื่อ SIM Umniah ได้สิทธิ์ x2 จากปริมารเน็ตที่ซื้อ

รายละเอียดแพ็คเกจที่ซื้อ หลัก ๆ คือ 10 วัน 10 GB แต่จาก Voucher ที่ได้เลยได้ 20 GB

ภารกิจถัดไปคือการหาทางเข้า Amnan 
พอออกประตู 2 จะมีบูธ Airport Bus เล็ก ๆ พาไปส่งที่ 7th Circle (ใกล้เมืองที่สุด) ก่อนจะไป North Bus Station
(ข้อมูลในเว็บไซด์ที่บอกจะไปถึงพวก 4th Circle เฉพาะรถที่ไม่รับสัมภาระ)
ราคา 3.30 JOD รถมีตารางเวลาออก ตามนี้เลย

BUS Ticket

Bus Express Time Table
Departure from Amman
(North Station)
Departure from Airport
(Arrivals Terminal)
6:30 AM
6:00 AM
7:00 AM
6:30 AM
7:30 AM
7:00 AM
8:00 AM
7:30 AM
8:30 AM
8:00 AM
9:00 AM
8:30 AM
9:30 AM
9:00 AM
10:00 AM
9:30 AM
10:30 AM
10:00 AM
11:00 AM
10:30 AM
11:30 AM
11:00 AM
12:00 PM
11:30 AM
12:30 PM
12:00 PM
1:00 PM
12:30 PM
1:30 PM
1:00 PM
2:00 PM
1:30 PM
2:30 PM
2:00 PM
3:00 PM
2:30 PM
3:30 PM
3:00 PM
4:00 PM
3:30 PM
4:30 PM
4:00 PM
5:00 PM
4:30 PM
6:00 PM
5:00 PM
7:00 PM
6:00 PM
8:00 PM
7:00 PM
9:00 PM
8:00 PM
10:00 PM
9:00 PM
11:00 PM
10:00 PM
12:00 AM
11:00 PM
12:00 AM
01:00 AM
02:00 AM
03:00 AM
04:00 AM
05:00 AM

Ref: http://sariyahexpress.com/en/content/airport-express

ก็รอรอบ 2 ทุ่ม รถก็ค่อย ๆ เดินทางเข้าตัวเมือง
ประมาณ 40 กว่านาทีก็มาถึง 7th circle
ซึ่งพอลงไปก็จะมีพวก Taxi เจ้าถิ่นมาดัก เลยลองถามดู ก็เรียกให้ขึ้น พอถามราคาอีกทีก็บอก 10 JOD!!! พ่องงงง ก็เลยบอกไม่ยอม มันก็พยายามต่อ สุดท้ายพออิดออดเงียบ ๆ เช็คราคาอูเบอร์ไม่ถึง 3 JOD มันก็บอก กลางคืนมิเตอร์มันเบิ้ล ราคาพอกันแหละ (พอกันพ่องงงง) พอไม่ตกลงกับมันสักพักก็ขึ้นเสียงเลยจ้า ว่าจะเอาไง ก็เลยบอก ไม่อ่ะ ดร็อปตรูที่นี่แหละ แล้วค่อยเดินหนีหลบมุมมาก่อนเรียกอูเบอร์ เสียแค่ 2.3 JOD - -“ ก็มาถึงโรงแรมประมาณ 3 ทุ่มกว่า เป็นอันจบวันไป

24/10/19: ปรับเวลา ปรับตัว มุ่งสู่ Jerash

บรรยากาศยามเช้า ณ Amman ประมาณ 16-17 องศาเซลเซียส

น้องงง อยากกินแต่ก็กลัวไม่กล้าเข้าใกล้ 555+

หลังจากตื่นมา อาบน้ำ กินข้าว ทำอะไรเสร็จ
ประมาณ 9 โมง ก็ออกมาเรียก Uber ไป North Station แต่เค้าบอกว่าไปอีกจุดใกล้กว่า ไม่ต้องอ้อม โดยจุดที่ Uber พามาส่งเรียกว่า Sweileh Interchange ราคาประมาณ 5 JOD แล้วก็มารอขึ้น Bus ซึ่ง Uber ใจดีมาก พาไปถามให้ว่าคันไหนที่จะไป Jerash City แล้วก็ถามราคาให้พร้อม ราคาคนละ 1 JOD ถูกโฮก แต่ต้องรอคนเต็มก่อนค่อยออก

รถออกประมาณ 9:40
10:30 ถึง Philadelphia University
ประมาณ 10:50 รถก็มาถึงจุดจอด bus stop ที่ Jerash (โปรดดูแมพเองนะจ๊ะ แต่รวม ๆ ก็คร่าว ๆ ชม.นึงมาถึง)
จากนั้นก็เดินไปที่ Jerash ระหว่างทางตอนดูแผนที่อยู่ คนขายทับทิมก็ยื่นมาให้ชิมฟรี ทับทิมที่นี่หอม หวานมาก 🤩 เอ๊ะ หรือ เพราะมันฟรี 555
พอเดินไปถึงทางเข้าก็ยื่น Jordan Pass บัตรเบ่งให้ดูผ่านตลอดทาง ก็จะเดินผ่านโซนของฝากแล้วค่อยเข้าไปถึงบริเวณ Jerash City จริง ๆ

เพิ่มเติมข้อมูล Jordan Pass:
สำหรับคนไทยหากไม่ซื้อ Jordan Pass สามารถทำ VISA on Arrival ได้ แต่เสียค่าทำ 40 JOD
และต้องเตรียมพวกรูปถ่ายไปด้วย แต่โชคดีที่ Jordan มีบริการ Jordan Pass ซึ่งสามารถซื้อได้ทางออนไลน์แล้ว Print เป็นกระดาษมายื่นให้ทางเจ้าหน้าที่สแกน QR Code แล้วออก VISA ให้ได้ที่สนามบิน (จุดเดียวกับที่ทำ VISA On Arrival) ก่อนผ่านเข้า ตม. 

Jordan Pass จะมีราคาหลายระดับซึ่งแตกต่างกันที่จำนวนวันที่เข้า Petra ได้แค่นั้น
โดยดูรายละเอียดได้ที่ 
https://www.jordanpass.jo/Contents/Prices.aspx ซึ่งทริปนี้เนื่องจากแพลนเข้า Petra 2 วันจึงเลือกซื้อแบบ JORDAN EXPLORER ราคา 75 JOD ซึ่งถือว่าคุ้มเพราะเค้าเข้า Petra 2 วันก็ 55 JOD แล้ว รวมกับค่า VISA อีก 40 JOD อย่างน้อยก็ประหยัดไปแล้ว 20 JOD ไม่รวมค่าเข้าชมสถานที่อื่น ๆ อีก
Local Bus ที่โดยสารมา

ทับทิมที่คนขายให้มาชิมฟรี ๆ แดงเป็นอัมพันทับทิมเลย

ทางเข้า Jerash City อลังการมาก

ยื่น Jordan Pass ให้ปั๊มวันที่

เมืองโรมันโบราณ เจราช (The Roman city of Jerash) ประวัติศาสตร์สำคัญอีกหน้าหนึ่งของ จอร์แดน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองที่ถูกลืม เนื่องจากประสบแผ่นดินไหวทำลายเมืองหลายครั้ง ทำให้ นครเจราช ถูกทิ้งร้าง จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1878 มีการค้นพบและรัฐบาลจอร์แดนได้กลับมาบูรณะและฟื้นฟูความงดงามของนครโรมันแห่งนี้ให้กลับมาสู่สายตามนุษย์โลกอีกครั้

Ref. ข้อมูลจาก MThai

เข้าไปภายในก็จะมีโครงสร้างเมืองเก่าต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการจัดระบบระเบียบของผังเมืองได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโซนตลาด โซนพบปะกลางเมือง โซนบูชาเทพเจ้า ซุ้มประตูกษัตริย์ ร่องรอยรถม้า อักษรโบราณ หรือ แม้แต่โรงละคร









หลังจากเดินเยี่ยมชมท่ามกลางอากาศเย็น ๆ 20°C กับแดดอันแสงแร้งที่ไร้เมฆสักก้อนคอยปกป้อง สักประมาณ 2 ชั่วโมงก็ทั่วพอที่จะรู้สึกว่าหมดแรงและพอเถอะ ไปหาข้าวกิน

ตอนแรกว่าจะเดิน ๆ ไปโซนเมือง แต่เลี้ยวผิดทางไปเจอโรงเรียนเด็กหัวเกรียน วัยประมาณประถม บางกลุ่มก็ทักทายหนี่ฮ่าว เฮลโลเป็นมิตร แต่มีไปเจออีกกลุ่มพูดบ้าไรไม่รู้ พอเราหันหลังให้ปาหินใส่ซะงั้น #฿&$ แต่ก็หลีหเลี่นงละสุดท้ายก็กลับมากินร้านอาหารตรงก่อนทางเข้า Jerash City ราคาแรงมาก แซนวิชชีสกับเครื่องเพียงผักผลไม้ 4 JOD น้ำผลไม้อีกแก้วละ 3 JOD

มี Set Side Dish มาหใ้เยอะกว่าที่คิด

น้ำทับทิมชื่อนใจดีนะแต่แพง แต่ก็หิวอ่ะ

หลังกินเสร็จพักผ่อนพอหายเหนื่อยก็กะเดินไปขึ้นบัสไป Ajloun Castle อันเป็นปราสาทที่ถัดไปทางตะวันตกของเมืองประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร ตอนเดินออกมาเจอแท็กซี่ทัก ต่อรองกันได้ที่ 12 JOD ก็เลยใช้เงินซื้อความสบายไป ระหว่างทางคนขับแวะซื้อแป้งกิน ละก็แบ่งให้ด้วย ด้วยความที่เป็นของร้อน ๆ ทำใหม่ ๆ ยื่นมาให้ ก็จัดสิครับ 😂 เดินทางประมาณ 20 นาทีก็มาถึงที่ Ajloun เวลา 14:00 ตาลุงแท็กซี่ทำเนียนบอกราคา 13 JOD แต่ก็หาได้ยอมไม่ สุดท้ายก็ตกลงที่ราคา 12 JOD

ลุ๊งงงง แวะซื้อแป้งงี้ก็ได้หรอ ชิลเกิ๊นนน

อ่ะ แบ่งมาให้ ร้อน ๆ ก็โอเคดีนะ

ที่นี่ต้องเดินไปที่บูธขายตั๋วก่อน กึยื่น Jordan Pass ประทับวันที่ละเดินขึ้นเนินสูงพอสมควร ลุงบอกไปส่งให้ฟรีแต่บอกแต๊งกิ้ว ไม่เป็นไรไม่อยากจ่ายทิป

Ticket Counter ถ้าีม Jordan Pass ก็แค่เข้าไปปั๊มวันที่ใช้บริการ

Ajloun Castle

ปราสาทอัจลุนหรือบางคนเรียกป้อมอัจลุน ถูกสร้างขึ้นไล่เลี่ยกับช่วงที่ปราสาทเครัคถูกตีแตก (ก่อนนั้นเล็กน้อย) คือ ค.ศ. 1184-1185 แต่ปราสาทนี้เป็นผลงานของชาวมุสลมที่อยู่ทางตอนเหนือ โดยผู้สร้างคือ Izz al-Din Usama หลานของซาลาดินที่ได้รับมอบหมายมาสร้างป้อมปราการทางตอนเหนือเพื่อสกัดกั้นการรุกคืบของชาวคริสต์ที่มาจากฝั่งตะวันตก

ปราสาทอัจลุนตั้งอยู่บนภูเขาทำให้เข้าโจมตีได้ยาก ปัจจุบันบริเวณตีนเขามีชุมชน “เมืองอัจลุน” ถือเป็นเมืองสำคัญทางตอนเหนือของประเทศจอร์แดนด้วย
ปราสาทอัจลุนถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานที่มั่นทางตอนเหนือของฝ่ายมุสลิม แต่เอาเข้าจริงแทบไม่ได้ใช้ทำสงครามครูเสดเลย เพราะกษัตริย์ซาลาดินสามารถตีปราสาทเครัคแตกได้ก่อน และบุกยึดเยรูซาเล็มได้ในเวลาต่อมา ดังนั้นปราสาทอัจลุนจึงอยู่ว่างๆ ไม่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูไปอีกพักใหญ่ๆ

Top View จากปราสาท Ajloun
บรรยากาศรอบนอก

บรรยากาศภายในปราสาท

หินสำหรับไว้ใช้ยิง

Slit สำหรับยิงธนู

หลังจากเดินชมปราสาทจนทั่วซึ่งใช้เวลาราว ๆ ชม.เศษก็เดินลงมา เจอตาลุงแท็กซี่ดักรออยู่แล้ว บอกว่าไปส่ง Jerash ให้ คิดแค่ 6 JOD พอ ก็เลยยอมขึ้นกลับมาบอกให้ไปส่งที่ Jerash Bus Terminal ซักประมาณครึ่ง ชม. ก็ถูกพามาส่งที่รถบัส แต่เหมือนโดนหักหัวคิดเพราะบัสคิดราคากลับ Amman คนละ 2 JOD (ปกติควรแค่ 1 JOD)

Tea with Mint Leaf

นั่งรถประมาณ 50 นาทีก็มาถึงจุดขึ้นรถที่เดิมแถว Sweileh Interchange ดูราคาอูเบอร์ยังวิ่ง ๆ ระหว่าง 6-8 JOD ก็เลยเดินเล่นแวะ supermarket ก่อนจะเรียกอูเบอร์ไปที่ Temple of Hercules โชคดีได้คนขับที่เี เป็นพาร์ทไทม์อูเบอร์ ปกติทำงานแบงค์ คือ ใส่สูทอยู่เลยเลิกงานละก็มาขับต่อ เค้าก็แนะนำให้ระวังพวกแท็กซี่ Yellow Cap อย่าไปสุงสิงตกลงไรด้วย ละก็แถวนั้นไม่มีอะไรรอบ ๆ ให้มาตรง downtown ถึงจะน่าสนใจ ใช้เวลาประมาณครึ่ง ชม. ก็มาถึง ตอนนั้นเวลา 17:30 ได้ ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ประจวบเหมาะมาก เพราะ ที่นี่ปิด 18:00 พอมาถึงจึงได้วิวเมืองช่วงพระอาทิตย์ตกดินพอดี (ที่นี่ใช้ Jordan Pass เข้าชมฟรีเช่นกัน) หลังจากชมวิวถ่ายรูป ก็แวะดูพวก Amman Citadel ต่าง ๆ เข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงสิ่งของ เครื่องใช้สมัย Early Bronze, Middle Bronze จนถึง Roman Age ให้ชม จนมืดก็ค่อยเดินออกมาโดยกะว่าจะไป downtown ต่อก็มาเจอแก๊งแท็กซี่ เจอลุงคนนึงทักหนี หาว พอบอกไทยแลนด์ลุงก็บอกกลับมาเลยว่า สวัสดีคร้าบบบ~ ละก็ทักว่า เฮ้ย ยูน่าจะรู้จักไอนะ จากบล็อกคนไทย ซึ่งพอเปิดนามบัตรให้ดูก็ อ๋อ เลย คือลุง 
Shawki Dahier เคยอ่านเจอเหมือนกันแต่ไม่ได้ติดต่อแกเพราะใช้การเช่ารถเที่ยวเอา (หากจะใช้ Tourist TAXI ดูข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ https://www.kafaak.com/2017/05/21/first-time-in-jordan/) หลังจากคุยโม้กันสักแป๊บก็เซลฟี่กันเป็นที่ระลึก แล้วค่อยมุ่งหน้าไป downtown ต่อ

ภาพบรรยากาศ Amman City จาก Temple of Hercules
Temple of Hercules


Real Skull!

Sunset View

จุดมุ่งหมายของวันนี้คือร้าน Hashem เป็นร้าน Hummus with Falafel & French-fries ตกคนละ 3 JOD คนแน่นมากกกก แต่ก็มีแค่ hummus ไว้จิ้มกินกับขนมปัง ฟราย และเฟลาเฟล กินไปนาน ๆ ก็เลี่ยนจนต้องสั่งชาร้อนมากินด้วย ก็ดีนะ ให้เยอะแต่กินนาน ๆ ก็เลี่ยนเพราะมีแต่แป้งและผัก

Hashem ร้าน Hummus & Fellafel เจ้าดังใน Downtown
มาเป็น Set ใหญ่ ๆ เอาจนเอียนกันไปข้าง

Hummus

Falafel

หลังจากกินเสร็จก็เดินเล่นย่านดาว์ทาวน์นี่แหละ พอมาฝั่งตรงข้ามเพิ่งเห็นร้าน Crispy Chicken เนื้อ!!! อยากเนื้อว๊อออย แต่ก็อิ่มละเลยกะค่อยกินวันถัดไป ระหว่างทางก็มีแวะร้านเจลาโต้ Aima รสชาติช็อคเขิมข้นดี ใครชอบเข้ม ๆ เลิฟแน่นอน ราคาไม่แรงด้วยแค่ถ้วยละ 1.5 JOD ระหว่างเดินเล่นก็มีไปแวะ Roman Theater อารมณ์ public space บ้านเราคือเป็นสวนสาธารณะที่คนมาชุมนุมกัน ส่วนโซนเธียเตอร์สมัยเก่าก็จัดเป็นคอนเสิร์ต แต่ก็ดูอยู่แค่วงนอก พอเห็นไม่มีอะไรก่อนกลับก็เลยเดินไปแวะ Rainbow Street เพื่อที่จะแวะร้านชาร้านนึงที่เจอในแมพ ร้านเป็นแนวคาเฟ่รสชาติดีแต่ราคาก็แรงแบบคาเฟ่บ้านเรา ซึ่งระหว่างทางก็เห็นร้าน Shawarma Express เลยกะว่า พรุ่งนี้ก่อนไปรับรถเช่าต้องซื้อไก่หรือชวาร์มาไปกินให้ได้ หลังจากเดินทั่วจนเหนื่อยแล้วก็กลับที่พักเป็นอันจบไปอีกวัน 

Roman Theater กลางคืนมีเปิด Concert ด้วย

Jelato ร้าน AIMA

Green Tea Turtle Tea Cafe

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น