วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Review : Backpack to Cambodia (Siem Reap – Angkor Wat – Angkor Thom) ตอนที่ 2



2nd  Day (13/04/2014) : ตื่นตี 5 ครึ่ง(อีกแล้ว) เพื่อไปชมทินกรขึ้นขอบฟ้า ณ นครวัด

                “Watch and then die” วลีสุดฮิต ที่มาแล้วต้องได้ยิน สำหรับผมแล้วจะว่าสมเหตุสมผลก็ใช่ หรือจะไม่ก็ได้ (จะเอาไงแน่ 555+) คือสำหรับตัวผมถามว่ายิ่งใหญ่หรือไม่ ต้องตอบเลยว่าใช่ (ไม่งั้นจะได้ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกเรอะ) แต่ดูๆแล้วไม่ถึงขนาดที่ผมจะตายอย่างสงบ เพราะยังมีอีกหลายอย่างที่อยากไปสัมผัส อยากไปเห็นอีกมากมายนั่นเองครับ
                เริ่มมาถึงเวลาตี 5 ครึ่ง พร้อมเพรียงกันหน้าโรงแรม ปรากฏว่าผ่านไป 15 นาที ตุ๊กๆอีกคันไม่มา เลยต้องตามอีกคันให้มารับแทน (เริ่มหวั่นตูจะไปทันไม๊?!?) ก็นั่งไปเรื่อยๆตามทาง จนผ่านด่านครับ เค้าก็จะให้นักท่องเที่ยวจ่ายค่าเข้าชมพร้อมทำบัตร 1-day pass ราคาค่าเข้าชมอยู่ที่ 20 USD ต่อวัน ครับ จ่ายเงินพร้อมทำบัตรถ่ายรูป เสียเวลาพอสมควรตอนรอบัตร
One Day Ticket
เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยังนครวัดครับ ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว ถ่ายตอนเช้ามืดไม่ทันแล้ว ได้แต่ภาพตอนพระอาทิตย์เลยขึ้นฟ้ามาดังภาพครับ (ฝีมือได้แค่นี้ล่ะครับ ที่ไม่มีแล้วด้วย โดนจองจนหมด orz) แต่ยังดีที่มาช่วงสงกรานต์เลยได้ชมพิธีอะไรซักอย่าง มีแต่งชุดเป็นนางอัปสราด้วยครับ ที่นี่ตุ๊กๆ ให้เวลาถึง 7.30 ครับ หลังจากที่ชมทั่วทั้งนครวัดแล้วก็เดินออกมายังจุดนัดพบครับ
ฟ้าเริ่มสางแล้ว

จุดที่ทุกคนรอถ่ายรูป ฝีมือได้แค่นี้แหละ =w="
สภาพปราสาทภายใน
บรรยากาศภายในปราสาทนครวัด
นครวัดด้านหลัง

พิธีกรรมในวันสงกรานต์ของกัมพูชา


เพื่อเดินทางไปยังร้านอาหารใกล้ๆ ราคาค่อนข้างเอาเรื่อง รสชาติโอเคครับ แต่เป็นพวกสไตล์ฝรั่ง ขนมปังเสียส่วนใหญ่ ยังดีที่มีก๊วยเตี๋ยวครับ จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังปราสาทบายนศรีในนครธมครับ ค่อนข้างสวยงามมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะ (คนก็เยอะ) 
ปราสาทบายนศรี ใหญ่มาก!! เหนื่อยโฮก
จากนั้นก็แวะไปยังปราสาทเล็กๆใกล้ๆ ปราสาทตาแก้วครับ ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไรนัก จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังปราสาทตาพรหมหรือที่รู้จักกันในชื่อปราสาท Tomb Rider นั้นเองครับ ก่อนเข้าปราสาทก็แวะซื้อน้ำกับผลไม้ก่อนสับปะรดที่นี้ลูกละ 20 บาทครับ ถือว่าราคาใช้ได้เลย หวานอร่อนด้วย ส่วนน้ำครับขายขวดปกติที่ 1 USD ปรากฏเพื่อนผมตาดีเห็นใต้น้ำแข็งก้อนใหญ่มีขวดใหญ่อยู่ ถามว่าเท่าไร ปรากฏว่าขาย 1 USD เท่ากันซะงั้นครับ แน่นอนว่าพวกผมต้องซื้อขวดใหญ่อยู่แล้ว (คนขายก็ช่างคิดแบบซ่อนไว้นะ) สำหรับจุดขายของปราสาทนี้นอกจากเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง Tomb Rider แล้ว ยังมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นกลางปราสาท พร้อมกับตรงรากไม้มีการแหวกช่องให้เห็นนางอัปสราได้ครับ (เค้าดูฮือฮา แต่พวกผมเฉยๆครับ =_=
เห็นนางอัปสรากันไหม?
ที่นี้ค่อนข้างใหญ่และแปลกตากว่าจุดอื่นเพราะค่อนข้างร่มรื่นมีต้นไม้ขึ้นเยอะ ดูดิบๆกว่าปราสาทอื่นๆ สุดท้ายพวกผมก็ออกผิดทาง (ปราสาทมีทางเข้า 3 ทางครับ) ต้องเดินอ้อมกันไกลพอสมควร จากนั้นตุ๊กๆก็พาไปกินร้านอาหารที่ดีลกันไว้(อีกแล้ว) แต่ที่นี้เพื่อนผมดูไม่ค่อยโอเค อยากกินอาหารพื้นบ้านมากกว่าอาหารสไตล์แบบร้านอาหารฝรั่งทั่วไปจำพวกสเต็ก กอรปกับราคาที่ค่อนข้างแพง 5-6.5
USD ก็เลยพูดว่าอยากไปกินที่อื่น ที่นี้พอทางร้านเห็นว่าเหมือนจะเสียลูกค้าเลยบอกว่าเนื่องจากว่ามันเป็นวันปีใหม่ เราอยากให้ทุกคนมีความสุข You Happy, I Happy เลยลดราคาเหลือ 4 USD ทุกเมนูเลยครับ ก็เลยโอเคยอมกิน (ได้ลดซะงั้น ฮา)

ปราสาทสุดท้ายของวัน
                หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าต่อไปยังปราสาทสุดท้าย (จำชื่อไม่ได้จริงๆครับไม่แน่ใจว่าเป็น ปราสาท Banteay Kdei หรือ ปราสาท Kravan) ตุ๊กๆ พาไปจอดเข้าทางด้านหลังแล้วบอกให้เดินออกทางด้านหน้าจะรออยู่ตรงนั้น ระหว่างเดินเข้าปราสาทพบเจอเด็กตมขายโปสการ์ดครับตอนแรกบอก 1 USD” แต่ผมบอกขาดตัว 20 บาท ถ้า 20 บาทซื้อเลยทันที เด็กก็ไม่ยอมบอก 30 บาท, 2 ชุด 60 บาทเอ่อ มันลดตรงไหนฟะ จากนั้นก็ตื้อไปเรื่อยๆจนจะเข้าปราสาท เด็กก็หน้าบึ้งปนผิดหวังหน่อยๆแล้วบอกว่า 20 บาทก็ได้ ก็เลยซื้อมาครับ เป็นโปสการ์ด 10 ใบ ตกใบละ 2 บาท กำลังดีครับ หลังจากนั้นก็เดินชมปราสาทจนออกมาด้านหน้าครับ แล้วก็คุยกันกับตุ๊กๆว่าไม่อยากไปโตนเลสาบ แต่อยากไป Old Market แทน เค้าก็แบบโอเคแล้วแต่พวกคุณ ก็ขับพาไปครับหย่อนผมที่จุดหนึ่งแล้วนัดพบกันอีกประมาณ 2 ชั่วโมง และความเข้าใจผิดที่ผมไม่รู้ก็คือ Old Market, Night Market, Pub Street นั้นอยู่ใกล้กันหมดครับเดินกันได้ (ทีแรกนึกว่า Old Market มันอยู่ไกลออกไปอีก แต่ตามจริงที่ไกลออกนะคือ Centre Market ครับ เป็นตลาดสดฝั่งชุมชน มารู้ทีหลังว่าคนแถวนั้นจะเรียกว่า Old Market ครับ คือชื่อซ้ำกันนั่นเอง สรุปเลยได้ไปที่ใกล้ๆตอนกลางคืนของวันแรก) ก็เดินชมของครับ ตัวผมซื้อพวงกุญแจมาชุดหนึ่ง 6 พวง ราคา 2 USD กับอีก 10 บาท ตอนแรกแม่ค้าบอก 5 USD ผมบอก 1 USD ปุ๊บ เพี๊ยะ!! โดนตีเข้าให้หนึ่งดอก พร้อมสบถเป็นภาษาเขมร ละตามมาด้วยคำว่าไม่ด๊ายยย!!” ส่วนเพื่อนผมจะซื้อกระเป๋าเป้ครับ โดนแม่ค้าดราม่าไป บอกว่าเธอเป็นลูกค้าคนแรก เจอบอกมาเป็นสิบคนว่าขอเดินดูรอบๆก่อนแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย(แหงสิ ก็ร้านอื่นถูกกว่านี่หว่า) สุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อ กินหมูไปตัวนึงเต็มๆครับ (ฮา) หลังจากถูกสังเวยไปแล้วก็มีแว๊บกินน้ำปั่นกันเพื่อนผมสั่งกล้วยปั่น มะนาวปั่น มะม่วงปั่น ส่วนผมชอบของแปลกเลยจัดกล้วยผสมมะม่วงหิมพานต์ปั่นครับ ก็กล่มกล่อมดี เสร็แล้วก็เดินเข้าห้างตากแอร์เดินดูของเล็กน้อยรอเวลาแล้วก็กลับที่พัก พร้อมกับนอนพักเอาแรงเพื่อเตรียมเดินทางไป Pub Street ต่อคืนนี้ครับ


                เวลา 19.20 น. ผมตื่นนอนขึ้นมาจากการปลุกของเพื่อนๆ ถ้าเป็นวันอื่นๆผมคงล้างหน้าแต่งตัวพร้อมออกไปต่อแล้วครับ แต่ทว่าวันนี้ครับ 13/02/2014 เป็นวันที่สโมสรอันเป็นที่รักยิ่งของผม Liverpool Football Club มีแข่งครับ แถมแข่งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่กำลังคั่วแชมป์กันอยู่ด้วย ผลแพ้ชนะนัดนี้จึงเป็นตัวกำหนดได้เลยว่าทีมของผมจะยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์อยู่หรือไม่ ก็เลย.....ไหว้ ขอร้องพวกเพื่อนๆว่า อย่างน้อยก็ขอดูครึ่งแรกหน่อยแล้วกัน แล้วค่อยเดินไปหาร้านที่มีฉายอีกที แต่...อนิจจา ตูข้าช่างอาภัพนัก ดูไปได้ 6 นาที....พรึ่บ!! ไฟดับ!! WTF!!! แถมดับนานพอสมควรด้วย แต่ที่แย่กว่านั้นคือ พอไฟรอบๆโรงแรมติด ทั้งบ้านเรือน วัด ปั๊ม ก็ติดแต่มีแค่โรงแรมหลังนี้หลังเดียวที่ไม่ติด orz สุดท้ายเลยต้องจำยอมเดินออกจากโรงแรมไปหาข้าวเย็นกิน ยังดีที่ระหว่างเดินไป Pub Street เจอร้านนั่งดริงค์เปิดอยู่แล้วเดินผ่านตอนหงส์แดง ลิเวอร์พูลยิงประตูขึ้นนำ 2-0 พอดี (แต่ยังไงก็ตามก็มารู้ทีหลังว่า ก่อนไฟดับแค่ไม่กี่วินาทีหงส์แดงก็ยิงขึ้นนำ 1-0 อดดูลูกแรกแบบน่าเจ็บใจมาก orz) สุดท้ายก็เดินไปถึง Pub Street ครับ เจอร้านที่มีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ราคารับได้ แต่ปรากฏว่าที่นั่งดันไม่มี แต่ๆๆผมมันเป็นพวกบ้าบอลเข้าสายเลือดจะไม่ดูก็ไม่ได้ ครึ่งหลังมาพอดี เลยบอกกับทุกคนว่าจะกินก่อนก็ได้นะ แต่ทุกคนก็ใจดีครับบอกว่า เออ เดี๋ยวเดินรอบๆแถวนี้ไปหาไรกินรองท้องก่อน บอลจบเดี๋ยวเจอกัน ผมก็เลยได้ดูยาวๆ มันส์ชนิดลืมหิวกันไปเลยทีเดียว ผลสุดท้ายคือหงส์แดงชนะไปด้วยสกอร์ 3-2 ครับ
                เอาล่ะ นอกเรื่องไปเยอะได้เวลากินอาหารเย็นกันแล้ว คืนนี้พวกผมตัดสินใจเดินย้อนกลับไปทางโรงแรมมีแว๊บกินน้ำปั่นข้างทาง โดยที่ผมสั่งไปคือละมุดปั่นครับหวานดี หากินยากอยู่แม้แต่ที่นี่ จานั้นก็ไปหยุดกินข้าวเย็นที่ร้านข้างทางเอาครับ ได้แก่ เนื้อกระทะ
, Amok, Lok Lak, Cambodian Curry Noodle ตามลำดับในภาพเลยจ้า
เนื้อกระทะ ใส่เนยด้วยหอมมาก ><

Amok อารมณ์แกง มีเนื้อปลา อร่อยดี

Lok Lak เนื้อ!!! อร่อยมาก กินกับน้ำจื้มคล้ายๆจิ้มแจ่วแต่มีเกลือด้วย

Cambodian Curry Noodle ชอบชามนี้มาก อร่อยสุดๆ
ขอบอกเลยครับว่าราคาถูกกว่าแถมรสชาติอร่อยกว่าด้วยครับเมื่อเทียบกับร้านที่กินมาตอนเช้ากับกลางวัน ค่อยรู้สึกว่าได้มาถึงกัมพูชาแล้วซักที จากนั้นก็ไม่มีอะไรครับ เดินทางกลับโรงแรม พักผ่อนกันเตรียมพร้อมเข้าสู่การท่องเที่ยวในวันสุดท้ายครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น