บทความในครั้งนี้ถือว่าเป็นรีวิวครั้งแรกเลยก็ว่าได้
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ได้วางแผนกันไว้ว่าจะเดินทางไปกัน 4 วัน 3 คืน
(ตอนแรกกะจะ 3 วัน 2 คืน เพราะคนเขียนเงินไม่พอ
แต่พวกเพื่อนที่แสนดีบอกว่ายืมได้เลยจัดไปเอาให้คุ้ม ไปต่างประเทศทั้งที lol)
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้
ขาไปได้ใช้วิธีเกาะรถบ่อนไปครับ โดยสงวนค่าเดินทางที่ 100 บาทถ้วน จ่ายก่อน 300
บาท แล้วพอถึงเวลาไปรับชิพเงินคืนอีก 200 บาท ที่คาสิโน
สำหรับวิธีการติดต่อก็ใช้ลิงค์ตามข้างล่างนี้ครับ
การไปเที่ยวในครั้งนี้ใช้บริการของมาริโอ้ทัวร์ครับ
ติดต่อขอขึ้นรถที่พาต้า ปิ่นเกล้า เวลา 5.30 น.
ส่วนตัวแล้วประทับใจกับบริการของทัวร์นี้มากครับ เห็นพวกผม 4 คน
แบกกระเป๋าใบเป้งมา ดูปุ๊บรู้เลย ไอ้พวกนี้ไม่ได้มาเข้าบ่อนแน่
หลังจากไปถึง เค้าก็แนะนำ พาเดินทางบอกนู่นนี้ ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไร
ฝากของที่ไหน กินข้าวที่ไหน มาเช็คพาสปอร์ตตอนไหน รับกระเป่าคืนได้กี่โมง
ถึงจะออกไปลัลล้าได้
1st Day (12/04/2014) : หาที่พักเตรียมขึ้นรถให้ทันตอนตี
5 ครึ่ง
การขึ้นรถให้ทันพร้อมกันตอนตี
5 ครึ่ง นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายครับ
ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือหาที่ค้างใกล้จดขึ้นรถครับ
โชคดีที่หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางครั้งนี้มีคอนโดอยู่ข้างหลังพาต้าครับ
จึงขอจองขึ้นรถที่หน้าพาต้า ปิ่นเกล้า รถมาค่อนข้างตรงเวลาครับ
สภาพรถเป็นแบบรถทัวร์ทั่วไปเลยครับ
ตอนขึ้นรถเค้าก็จะถามว่าจองไว้ชื่อคุณอะไรก็บอกไปไม่มีปัญหาครับ หลังจากขึ้นรถมา
รถทัวร์ก็จะแวะไปรับคนที่จุดต่างๆอีกเล็กน้อยครับ จะมีปัญหาบ้างก็ตรงที่คนที่โทรมาจองตอนเช้ามืดเลย
แล้วยืนยันจะไปให้ได้ หรือนั่งที่นั่งผิด ก็มีวุ่นวายเล็กน้อย
สุดท้ายก็ยอมนั่งตรงบันได อัดๆกันมาได้ครับ
ส่วนพวกผมก็นอนกันสบายเพราะจองที่ไว้แล้ว
(_ _)zzzZ จากนั้นก็ไม่ต้องคิดมากครับ
นอนยาวเลย นอนแล้วนอนอีก จนกระทั่งไปถึงอรัญประเทศ ตลาดโรงเกลือโน้นเลยครับ เวลาที่ถึงก็เกือบๆ 11 โมง
พวกผมเสียเวลาหาที่แลกเงินกันเล็กน้อย
เพราะมีคนที่หาที่แลกเงินมาไม่ได้ เพราะช่วงที่พวกผมไปก็เทศกาลสงกรานต์พอดีแบงค์ 1
USD
ขาดตลาดครับ
สาเหตุที่ต้องแลกเป็นแบงค์ดอลไว้ เพราะที่นี้นิยมใช้แบงค์ 1 ดอลครับ
จะใช้เงินบาทก็ได้แต่มีอัตราคร่าวๆ ประมาณนี้ 1 USD = 32/33/40 THB = 4000
รีล ส่วนเงินบาทนี่ต้องแล้วแต่ต่อรองเอาเองครับ


จากนั้นก็เดินผ่านจุดตรวจคนออกนอกเมือง
จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ คนไทย กับ ชาวต่างชาติ ครับ
ถ้าเป็นคนไทยก็เข้าห้องชั้นล่างยื่นพาสปอร์ต แล้วก็ผ่านออกไปได้เลย
แต่ว่าก่อนพวกผมจะเดินเข้าไปโดนผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาทักด้วยครับว่า “Hello First Cambodia?” เพื่อนผมก็งงๆ ทักกลับอัตโนมัติว่า “ครับ?” เค้าเลยบอกว่า “อ่อ คนไทยหรอครับ เชิญครับ” จากนั้นก็มีเคสแบบนี้อีกหลายครั้งครับ
เค้าบอกกันว่าพวกผมหน้าเหมือนพวกจีน ไต้หวัน ฮ่องกง หรือญี่ปุ่น ทำนองนี้ (ฮา) หลังจากผ่านมาได้แล้วก็มุ่งหน้าเข้าสู่ปอยเปตเลยครับ และแล้วก็มาถึง
แต่นแต๊นนนน คาสิโน ครับ
 |
คาสิโนที่พวกเรามาเกาะใบบุญสิงสถิต |
 |
คาสิโนอีกฝั่งเจ้าของเดียวกัน เข้าไปกินบุฟเฟต์ในนี้แล |
(คาสิโนจะตั้งอยู่ก่อนเข้า ตม.ของกัมพูชาครับ)
เนื่องจากพวกผมนั่งรถบ่อนมา เพื่อให้ได้เงิน 200 บาทคืน จึงต้องเข้าบ่อนก่อนครับ
ก็เดินเข้าไปแล้วฝากกระเป๋า ทำเป็นเดินวนๆดูรอบนึง จากนั้นก็ไปกินข้าวอีกฝั่งครับ
เป็นคาสิโนเหมือนกัน เจ้าของเดียวกัน (แต่อัตราลงทุนขั้นต่ำสูงกว่า)
โดยกับข้าวฝั่งนี้เราจะได้เป็นบุฟเฟต์ครับอยู่ชั้นใต้ดิน มูลค่า 250 บาท
(ได้บัตรจากทัวร์นั่นแหละครับ) กับข้าวบุฟเฟต์ที่นี้ค่อนข้างอร่อย
ครบเครื่องดีครับ (ยกเว้นไอศครีม) หลังจากกินข้าวเสร็จก็เดินดูเล่นๆจนถึงเวลา
13.30 น.
ก็ไปให้เค้าเช็คพาสปอร์ตที่ตึกที่ฝากกระเป๋าครับแล้วเค้าจะให้ชิฟเรามาเอาแลเงินคืนได้
200 บาท เสร็จแล้วก็เอากระเป๋าคืนแล้วเดินออกไปเข้า ตม. ได้เลยครับ
ก็ไม่มีอะไรมากครับกรอกประวัติส่วนตัว ระบุว่าจะอยู่กี่วัน
แล้วก็แสกนลายนิ้วมือเป็นอันเรียบร้อยครับ
หลังจากผ่านเข้ามาสู่ปอยเปตได้แล้ว
อื้มหืม ชาวกัมพูชานี่กรูกันมาหาใหญ่เลยครับ เห็นหมูอันโอชะเดินมา 4 ตัว เตรียมปอกเปลือกพวกเราเต็มที่
(ฮา) จากที่ฟังมาเห็นว่าจะมีขบวนการหลอกว่าให้ไปขึ้นรถขนส่งถูกๆได้
แต่ตามจริงพาไปที่แล้วไม่มีรถสุดท้ายต้องต่อแท็กซี่อยู่ดีครับ
เพราะฉะนั้นไม่ต้องสนใจ โบกแท็กซี่เลยครับ บอกต้องการไปเสียมเรียบ
แสดงแผนที่ระบุที่พักให้เห็นชัดเจน ต่อรอราคา เห็นว่าไม่ควรสูงกว่า 40 USD แต่ตอนนัน้ผมต่อได้แค่
50 USD ครับ แถมโดนคนช่วยโบกขอค่าน้ำใจด้วย (ตัวผมกะไปแค่ 1 USD ครับ
แต่เพื่อนให้ไป 100 บาท เท่ากับ 3 USD เลยนะนั่น TT)
รายละเอียดตามลิงค์เลยครับ
ห้องพักห้องละ 2 คน ตกคืนละ 300 กว่าบาทต่อคน
สำหรับบริการก็ถือว่าโอเคครับใช้ได้เลยแถมไม่ไกลจาก Pub Street มาก
เดินไปเองได้ครับ และที่พักเองก็ติดกับปั๊ม Caltex มีร้านสะดวกซื้อ
Star อยู่ใกล้ๆ ด้วยครับ ถือว่าสะดวกมากเลยทีเดียว
มาต่อกันที่การเดินทางครับ
การแบคแพคครั้งแรกในต่างแดนของพวกผมประทับใจมากครับ เดินทางไปได้ครึ่งชม.
รถเสียครับ =*=!!!!
ต้องให้คนขับเรียกรถคนอื่นมารับต่อ รอไปประมาณครึ่งชม.
ได้เปลี่ยนจาก Corolla เป็น Camry ครับ ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว
เพราะคุณภาพรถใหม่กว่ากันมาก แอร์ก็เย็นเผลอหลับกันทั้งรถเลยทีเดียว
รถที่นี้เหยียบไม่แรงครับประมาณ 40-50 kmh ใช้เวลาประมาณ
2 ชม.ครึ่งก็ถึงที่พัก (ก่อนจะถึง จู่ๆรถก็จอดครับ แล้วตุ๊กๆ 2
คันก็มารับพวกเราต่อ บอกว่าไม่ต้องจ่ายตังค์เป็นคอนเน็คชั่นกับแท็กซี่ครับ
คือเค้าส่งต่อลูกค้ากันให้เรากะใช้บริการตุ๊กๆ 2 คันนี้เลยครับ ซึ่งตุ๊กๆ คนนี้ก็พูดอังกฤษเก่งและคล่องมากครับ สื่อสารง่ายดี วันสุดท้ายเค้าให้ FB
และเบอร์โทรติดต่อไว้ด้วยครับ
ไว้จะแปะแล้วคอมเมนท์เพิ่มเติมอีกที) หลังจากเช็คอินเรียบร้อยแล้ว
ระหว่างรอเค้าจัดห้องให้ ก็ได้รับเครื่องดื่มแรกของการมาเขมรครับ
 |
น้ำกล้วย+สับปะรดปั่น |
น้ำกล้วย+สับปะรดปั่น หวานเย็นชื่นใจดีครับ จากนั้นก็ขึ้นห้องพักผ่อน
ถึงเวลาก็ลงมาให้ตุ๊กๆพาไป Pub Street ครับ เพราะตอนแรกยังเดินทางไปเองไม่ถูก
(ตรงนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ เพราะเค้ารอดีลให้เราใช้บริการของเค้าในวันที่เหลือ
ซึ่งสุดท้ายก็ตกลงใช้บริการพาไปนครวัด นครธม ในวันพรุ่งนี้ครับ สนนคนละ 15 USD) สำหรับ Pub
Street ก็จะมีขายอาหาร ร้านอาหาร ร้านเหล้า บาร์นั่งดริงค์เป็นหลักครับ
ถ้าเดินไปอีกก็จะถึง Night Market Area เป็นย่านขายของทั่วไปครับเสื้อ ผ้า กระเป๋า
ของที่ระลึกต่างๆ ครับ ใช้ฝีมือการต่อเอาเองว่ากันว่า ให้ต่อเหลือ 25% ของที่เค้าให้มาครับ
แล้วจากนั้นก็ฝีมือของแต่ละคนแล้วครับ (ฮา) สำหรับมื้อแรกในเขมรผมจัดอาหารอินเดียไปครับ
=w=” แต่อร่อยดีนะครับ 555+
เมนูที่สั่งก็มีแกงแกะ ปลาทอด ไก่ผัด กินกับแป้ง Plain กับโยเกิร์ตอีกแก้วครับ จากนั้นก็ไปปิดท้ายด้วยของหวานที่ร้าน The Blue Pumpkin ครับ จัดของหวานไปชิ้นกับไอศกรีม สั่งมา 3 รสครับ คือ Mint Chocolate / Sticky Chocolate / Rum Rasin ขอบอกว่ารัมเรซินเค้านี้กินเหล้าแรงมากครับ ทำเอาหน้าแดงได้เลย หลังจากจ่ายตังค์เรียบร้อยก็เดินกลับที่พัก นอนเตรียมตัวไปดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันที่ 2 ครับ
 |
อาหารอินเดีย อร่อยมากโดยเฉพาะซุปแกะ |
 |
ของหวานชิ้นแรกในเขมร |