Review : Backpack to Philippines (Cebu – Oslob – Pinatubo) ตอนที่ 4 (Final)

Day 4 : Manila, Mt.Pinatubo, BKK

       หลังจากเครื่องบิน บินถึง Manila (รู้สึกยังไม่ได้นอนเลย ถึงละ -3-) ก็รอรับกระเป๋า เดินออกมาประมาณ ตี 2 กว่าๆ ก็มองหาคนขับรถบริการที่จองไว้ ระบุว่าจะรอรับที่ Terminal 3 พอออกมาก็เจอคุณลุงถือกระดาษ A4 ระบุชื่อพวกผม 4 คนรออยู่ (รถเช่าบริการดังกล่าว จองผ่านการสอบถามใน www.tripadvisor.com ได้ค่าเช่ารถเดินทางไป Mt.Pinatubo 7,000 peso ค่าบริการอื่นๆตามรูปแนบ) หลังจากเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัวกันเรียบร้อย ก็เดินไปที่รถแก เป็นรถ HUV ค่อนข้างใหม่ ออกเดินทางไปตามเส้นขึ้นทางเหนือ ระหว่างทาง สมาชิกได้หลับไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนผมก็ฟังลุง Rudy แกเล่าให้ฟังถึงสถานที่ต่างๆที่ขับผ่าน โดยผมเปิด app Maps.me ประกอบไปด้วย เพราะสถานที่บางจุด ฟังแล้วไม่เข้าใจ (ฮา) จนกระทั่งพอถึง  ไม่มีอะไรให้คุยแล้วก็เลยชิงหลับตามมั่ง 555

รถที่มารับ กึ่งๆมินิแวน นั่งสบายดี

นอนไปสักพักพอถึงเมือง Angeres ประมาณ ตี 4 กว่าเกือบตี 5 ได้ ก็แวะซื้อข้าวเช้า จัด KFC Drive Through กินกันในรถไป

ข่าวไก่ KFC พอกินได้

หลังจากท้องอิ่มก็เดินทางกันต่ออีกซักแป๊บ ประมาณตี 5 ครึ่งก็เดินทางมาถึงฐานทัพอากาศของฟิลิปปินส์ ภายในจะมีบริการของพวกรีสอร์ทอยู่ แต่ของเราไม่ได้ขอเข้าพักเนื่องจากมาถึงเช้ามืดพอดี (ประหยัดค่าที่พัก 555+) ใช้บริการแค่รถจิ๊บนำเที่ยวอย่างเดียว

ทางเข้าฐานทัพอากาศ

มีให้กรอกลงทะเบีย และเซ็นยินยอมเรื่องอุบัติเหตุ

หลังจากถึงที่พัก ก็แวะเข้าห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมปีนเขา เดินป่ากันไป

ระหว่างทางตอนต้นเป็นทุ่งร้างๆ

ผ่านไปเรื่อยๆ ดินโคลนเริ่มมา

อ้างว้างมาก

เดินทางผ่านดินโคลน (ระดับเบาๆ) มาซักพักประมาณ 40 นาที ก็มาถึงจุดแวะพัก มีวิวเขาสวยๆให้ถ่ายรูปได้ พร้อมกับเด็กๆชาวพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในแถบนี้

วิวสวยๆกับเด็กชนพื้นเมือง

รถจิ๊บที่นั่งมา (เก่ากว่าชาวบ้านเค้า ช้ามาก -0-)

นั่งไปสักพัก ถนนหนทางเริ่มขรุขระ หนักกว่าเดิม กระแทกกันอย่างมันส์ TwT นอกจากนี้หนทางเริ่มวิบาก มีน้ำไหลเชี่ยวผ่าน ต้องลุยกันเข้าไป เดินทางอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง ประมาณ 7 โมงเช้าพอดี ก็ถึงจุดที่ต้องเริ่มเดินเอง รถจิ๊บไม่สามารถพาเข้าไปได้

ลุยน้ำกันหน่อย!!

นี่ตรูต้องเดินเข้าไปต่อเองเรอะ?!?

แดดที่นี่แรงมาก เข้าใส่ชุดเดินป่าที่ปิดมิดชิด ไม่งั้นดำแน่นอน (จากประสบการณ์ตรง 555+)

รองเท้าที่ใช้ควรเป็นแบบรองเท้ายาง แบบพวก CROCS (หาซื้อยี่ห้ออื่นที่ถูกกว่าไปก็ได้ เช่น ADDA) ที่สามารถลุยน้ำแล้วไม่ซึม หรือ อีกทางเลือกคือพวกรองเท้าเดินป่าที่กันน้ำ แต่ว่าน้ำก็ซึมเข้าได้านในได้อยู่ดีเพราะเกินข้อเท้าอยู่ ดูตามรูปได้ น้ำเชีย่วน่าดูเลย

น้ำย่างเชี่ยว เตรียมเลอะ

ทางเดินกลางแจ้งสุดๆ

เธอเห็นท้องฟ้านั่นไม๊ โปร่งเกิ๊นนน

เดินๆเถิดรา ดูๆไปก็ใหญ่มากนะ

ภาพ Pano ซักหน่อย

นั่นไง จุดพักร่มๆ ไกลๆนั่น

หลังจากเดินทางผ่านหุบเขาหินกลางแจ้งมาชั่วโมงกว่าๆ ในที่สุดก็เดินทางมาถึงจุดแวะพัก (?!?) ที่มีร่มเงากับเค้าซักที บริเวณนี้จะมีคนขายน้ำดื่ม ราคาก็พอสมควร (ส่วนตัวกินน้ำน้อยอยู่แล้ว เลยไม่เป็นปัญหา) พักซักประมาณ 15 - 20 นาที ก็เริ่มเดินทางต่อ (ขณะนั้นประมาณ 8 โมงครึ่ง) ในส่วนถัดจากนี้ไปจะเป็นการเดินป่า เส้นทางค่อนข้างร่มรื่น เดินทางได้เรื่อยๆไม่ชันเท่าไรนัก

ร่มรื่นจากเห้าไม้นานาพรรณ

ปีนๆ ฮึบๆ อีกนิดเดียว

เดินทางอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มาถึงซักที

Crater of Mt.Pinatubo

เดินๆ เข้าไป มีร้านค้าด้วย ของค่อนข้างแพง

วิวจากมุมบนก่อนลงไปด้านล่าง

คณะเดินทางในครั้งนี้ ชุดพร้อมไม่กี่คนจ้า

วิวสวยๆ ทะเลสาบบนปล่อภูเขาไฟ

โดดซักหน่อย

เก็บบรรยากาศพักให้หายเหนื่อย ถ่ายวิวพักผ่อนกันไปตามอัธยาศัย

พอพักให้หายเหนื่อยก็เดินทางกลับ (ตะลุยแดดอีกแล้ว Orz) เริ่มออกจาก Mt.Pinatubo ประมาณ 10.30 เดินทางออกมาเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนประมาณ 11.00 กว่าๆก็กลับมาถึงจุดที่รถจิ๊บจอดรอ

ยังไหวอยู่ครัช

ดูยิ่งใหญ๋อลังการมาก

หลังจากขึ้นรถแล้ว ด้วยความที่เพลียมากก็เผลอหลับยาวเลย รู้ตัวอีกทีตอนมาถึงที่พัก ซึ่งเนื้อตัวนี้คลุกไปด้วยฝุ่น ยังไงก็ต้องยอมจ่ายค่าอาบน้ำ (ถ้าจำไม่ผิดคนละ 200 peso)

สุดท้ายก็ถึงเวลาเดินทางกลับมะนิลาเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับไทย

ระหว่างทางก็จัดอาหารมื้อกลางวัน กึ่งเย็นบนทางด่วนแถวจุดพักรถระหว่างทางไป

บะหมี่น้ำพร้อมซาลาเปา

เหมือนหมูแดง อร่อยใช้ได้

Rate ค่าทางด่วน

รถค่อนข้างติด ดีที่เผื่อเวลาไว้เยอะ มาถึงสนามบินประมาณ 17.30 ก็จัดการ Check In โหลดกระเป๋า หาข้าวกินต่อ

Steak เนื้อหอมๆ พร้อมมันบด

ประมาณ 2 ทุ่มก็ได้ขึ้นเครื่อง กลับถึงไทยเกือบๆ เที่ยงคืน เป็นอันจบทริปสั้นๆในฟิลิปปินส์ในคราวนี้ แล้วพบกันใหม่ทริปหน้า กับ Trans-Siberin Trip ครับผม

Review : Backpack to Philippines (Cebu – Oslob – Pinatubo) ตอนที่ 3

Day 3 : Panglo (ปังเหลา) ~~~ to Chocolate Hills to Cebu

Check out, รับอาหารเช้า และออกเดินทางตอน 5.00 am เดินทางไปยังจุดขึ้นเรือ เพื่อไป Flooding Market โดยรถที่มารับเป็นรถตู้คันมินิ

เดินทางประมาณ 40 นาที (5.40) ถึงจุดขึ้นเรือ ที่ดูแล้ว ไม่ใช่คนพื้นที่คงไม่มีวันเดินเข้าไปแน่นอน

บรรยากาศยามเช้า ดูสวยดี

เรือที่จะพาเราไปตลาดน้ำ

ตัดสินใจขึ้นเรือและเอนจอยกับอาหารเช้าบนเรือ

Breakfast จากโรงแรม

เดินทางประมาณ 20 กว่านาทีก็มาถึงที่เกาะ

มองซ้าย มองขวา ไม่เจออะไร
คำถามแรกคือ ..... ไหนฟระ Flooding Market

ทำไมมันร้างงี้เนี่ย หรือ ตลาดวายไปแล้ว?!?

หลังจากเดินสำรวจรอบๆ ถ่ายรูปรูปปั้น St.Pio of Pietrelcina Capuccino และอ่านเนื้อหาโดยรอบเลยพบว่าที่นี่เกิดการพิพาทกันระหว่างกลุ่ม ทำให้สุดท้ายที่นี่เหมือนถูกยกเลิกธุรกิจอะไรต่างๆ กลายเป็นหาดเปล่าๆให้ชม เห็นว่าประมาณ 8 โมงจะเปิดไปอีกฝั่งได้แต่ก็ไม่มีอะไร เลยตัดสินใจกลับแล้วไปที่อื่นต่อดีกว่า อยู่ไปไม่มีอะไรทำ (คนที่เราว่าจ้างก็ไม่บอกซักแอะ ว่ามันไม่มีแล้ว เห็นว่าจะไปก็ให้ไป ยังไงก็ได้เงินค่าพาไปหนิ เชอะ -3-)

St.Pio of Pietrelcina Capuccino บอกว่าอย่ามานะ TwT

สุดท้ายก็นั่งเรือกลับมา คุยๆกับคนขับบอกว่า ตามจริงจะไปดูตรงฝูงโลมาก่อนก็ได้แต่ราคา 2500 peso ก็ช่างมันเถอะ (เดี๋ยวไปแล้วไม่ได้เจอ เซ็งเข้าไปอีก) นั่งๆนอนๆรอเวลารถมารับเพื่อไป ซื้อตั๋วเรือกลับ Cebu แล้วค่อย Chocolate Hills กับสถานที่อื่นๆ แทนละกัน

หลังจากซื้อตั๋วที่ Port เสร็จ (ใช้บริการของ Super Cat เพราะเห็นคนน้อยดี รอบก็น้อยต่างกับอีกเจ้า) แล้วก็เดินทางต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็มาถึง Choc Hills มาถึงปุ๊บละช็อคสมชื่อเลย เห็นป้ายบอกว่าพัฒนามาตั้งแต่1971 แต่แบบว่า รอบนอกยังพอดูโอเค แต่จุดที่ให้ปีนไปถ่ายรูปนี่ไม่เหมาะอย่างแรง เนื่องจากยังสร้างทางเดินไม่ครบถ้วน แถมจุดที่ให้ชมวิวยังสูงโดดจนถ่ายรูปไม่สวยอีก (รู้สึกวันนี้มีแต่โดนของแหกตา)

หลังจากเห็นพ้องต้องกันจึงตัดสินใจเดินลงมาแล้วไปหยุดแถวๆทางโค้ง เพื่อเก็บภาพบรรยากาศให้สวยที่สุดเท่าที่จะทำได้มา

แวะซื้อไอติมมะม่วง กับน้ำมะพร้าว (ไม่หวาน แต่เย็นดสดชื่น เนื้อเยอะดี สนนราคาอยู่ที่อย่างละ 25 peso) แล้วก็เดินทางต่อ ออกจาก Choc. Hills ประมาณ 11.00 กว่าๆ

แวะ Butterfly Museum : ไม่ค่อยมีอะไร นักมีพวก Caterpilla, Pupa กับผีเสื้อทั้งจริง ทั้งสตาฟให้ดู

ผีเสื้อในพิพิธภัณฑ์

แวะ Tarsier Park เพื่อดูเจ้าลิงจิ๋วทาร์เซียร์ เลี้ยงแบบควบคุมบริเวณ ไม่ค่อยมีอะไรเท่าใดนัก

เจ้าลิงจ๋อทาร์เซียร์

จากนั้นใช้เวลาอีกครึ่งชม. (12.30) มาถึงจุดทานข้าว ร้านเป็นแบบ Buffet เรือกลางน้ำ

หน้าตาเรือล่อง Buffet

อาหารหลากหลาย รสชาติทานได้ แต่ไม่ได้อร่อยโดดเด่นอะไร 

ระหว่างรับประมานอาหารก็ถูกพาล่องเรือไปชมการแสดงของเหล่าเด็กน้อยน่ารักๆ กับน้ำตกที่สุดทางของแม่น้ำ Loboc ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งในการดื่มด่ำธรรมชาติรอบข้าง

มีการแสดงของเด็กๆ พร้อมรอบริจาคเงินนะจ๊ะ

สุดทางแม่น้ำ วิวพอกล้อมแกล้ม

หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยัง Bohol Python เป็นอารมณ์สวนสัตว์เล็กๆ กับฟาร์มงูหลาม มีจขกท คนเดียวที่กล้าแตะถ่ายรูปกับเหล่า Python lol

แม่ Python : ชื่อว่า Prony

ตัวแม่ชื่อว่า Prony ปกติกินไก่ดิบวันละ 2 ตัว มีกินหนูบ้าง ทั้งหมดนำมาจากฟาร์ม

Baby Python

ตัวลูกนี่กินอย่างมากก็ไก่ 1 ตัว ก็น่ารักดีนะ lol คนที่ให้ จขกท จับ เดาตั้งนานกว่าจะเดาถูกว่ามาจาก Thailand ตอนแรกมานี่ถามเลย Chinese, Korean, Japanese, Philippino?!?

สุดท้ายค่อยเดาว่าไทย =__=" หน้าผมไม่เหมือนคนไทยช๊ะ แกก็ชวนคุยบอกเคยไปเที่ยวเมืองไทยที่ภูเก็ตมาก่อน ก็คุยเรื่อยเปื่อยกันไป ตามจริงอยากเอางูอีกตัวคล้องคอนะ แต่ค่าถ่าย 100 กว่า peso กับผมคนเดียว เอ่อ ไม่น่าคุ้ม 555

จิตรกรรมที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายยุโรปอยู่

สุดท้ายก็มาแวะที่โบสถ์ Baclayon อันเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดที่สร้างจากหินปะการังในภูมิภาคนี้

(ตั้งแต่ปี 1727)

หลังจากเที่ยวในตัวเมืองจนหมดก็มุ่งหน้ากลับมาสู่ Port (จากโบสถ์ ใช้เวลาเพียง 20 นาที ถึง Port 15.40) เพื่อรอขึ้นเรือเดินทางกลับสู่ Cebu 

มีคนมาใช้บริการเยอะพอสมควร

นอกจากค่าตั๋วคนละ 600 peso แล้วยังมีค่า Fee Boat อีกคนละ 20 peso ด้วย 

ที่นี่มีการตรวจกระเป๋าเหมือนสนามบินไม่มีผิด จากนั้นก็รอๆๆ จนถึงเวลา 17.25

ก็เดินทางด้วยเรือดังรูป กลับ Cebu ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ถึงตอน 19.40

หน้าตาเรือที่นั่งมา

หลังจากเดินออกมาจาก Port ได้แล้วก็ใช้ maps.me ช่วยเดินทางตรงยาวจนมาถึงแหล่งห้าง ร้านอาหาร ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชม. มื้อนี้ลองจัดร้าน Chowking ดู รสชาติถือว่าอร่อยเกินความคาดหวัง ส่วนตัวชอบที่นี่ที่สุด

Fast Food : Chowking

จากนั้นจึงไปซื้อเสบียงที่ 7-11 จัดคอนเน็ตโต้ รสชีส-เผือก และน้ำชานม Assam Milk Tea : Caramel Flavor (25 peso และ 45 peso ตามลำดับ)

Corneto : Cheese & Taro - 25 peso

Assam Milk Tea - 45 peso

จากนั้นก็เรียก Taxi Meter ไปสนามบิน ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที Cebu : 208 peso ถึงสนามบินตอน 21.40

เตรียมเดินทางสู่ Manila เพื่อเดินทางไปต่อยัง Mt.Pinatubo สถานที่สุดท้ายของทริปนี้